การพิจารณาคดีและการประหารชีวิต ของ สุดใจ ชนะ

ศาลจังหวัดหลังสวนได้มีคำพิพากษาว่าสุดใจมีความผิดในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและพิพากษาประหารชีวิตสุดใจ เขาจึงยื่นอุทธรณ์ ศาลอุธรณ์ภาค 8 พิพากษากลับ ยกฟ้องสุดใจและริบกระสุนปืนของกลาง เนื่องจากศาลได้วินิจฉัยว่าพยานหลักฐานโจทก์มีความสงสัยตามสมควร ให้ยกประโยชน์แห่งความให้พิพากษายกฟ้องสุดใจ โจทก์จึงยื่นฎีกา ศาลฎีกาได้พิพากษากลับประหารชีวิตสุดใจโดยเห็นว่าข้อต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ของจำเลยจึงฟังไม่ขึ้น[6][7]

สุดใจจึงทำหนังสือทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษแต่ฎีกาได้ถูกยกและถูกนำตัวเข้าสู่ห้องสถานที่หมดทุกข์หลังเวลา 17.00 น. ก่อนจะนำตัวมัดกับหลักประหารเมื่อเวลา 17.15 น. และถูกประหารชีวิตเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2545 เวลา 17.21 น. โดยเพชณฆาตเชาวเรศน์ จารุบุณย์ ใช้กระสุนจำนวน 8 นัด[8] และเป็นนักโทษประหารคนสุดท้ายที่ถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าในประเทศไทย ก่อนจะมีการแก้ประมวลกฎหมายอาญาให้เปลี่ยนวิธีการประหารชีวิตจากการยิงด้วยปืนเป็นการฉีดยาให้ตายในปี พ.ศ. 2546[9][10]

แหล่งที่มา

WikiPedia: สุดใจ ชนะ https://www.handsoffcain.info/notizia/la-camera-de... https://mgronline.com/onlinesection/detail/9610000... https://bookreadfree.com/487301/11969812 https://bookreadfree.com/487301/11969797 https://digital.car.chula.ac.th/cgi/viewcontent.cg... https://www.komchadluek.net/news/19993 https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1311... https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/3072... http://bsris.swu.ac.th/thesis/451995246RB899f.pdf